The Evil Within 2

The Evil Within 2


เนื้อเรื่องของ The Evil Within 2

ว่าด้วยเหตุการณ์ต่อเนื่องหลังจากเหตุการณ์สังหารหมู่ในโรงพยาบาลบีคอนของภาคแรก ผ่านไปได้ 3 ปีเซบาสเตียน คาสเตลาโน่ พระเอกของเราซึ่งตอนนี้ออกจากการเป็นตำรวจสายสืบเรียบร้อยด้วยปัญหาทางจิตจากความเครียดทั้งคดีเมื่อ 3 ปีก่อน และการสูญเสีย ลิลลี ลูกสาวไปในเหตุเพลิงไหม้ที่เขาโทษตัวเองเป็นสาเหตุ ด้านภรรยาของเขา ไมรา ก็ทนรับความจริงไม่ได้จนทิ้งเขาไป วันหนึ่งขณะที่เซบาสเตียนฟื้นจากเมาค้างและฝันร้ายที่เสียลูกสาวไปเขาก็ได้พบใบหน้าคุ้นเคย นั่นก็คือ จูลี คิดแมน หนึ่งในสมาชิกกลุ่มโมเบียสที่อยู่เบื้องหลังคดีโรงพยาบาลบีคอนซึ่งแฝงตัวมาเป็นสายสืบฝึกหัดในภาคแรก เธอมาบอกความจริงกับเขาว่า ลิลลี ลูกสาวของเขายังมีชีวิตอยู่ แท้จริงเธอถูกช่วยไว้โดยโมเบียสเพื่อนำไปเป็นแก่นกลางของเครื่องเชื่อมสมองนาม สเต็ม ตัวใหม่ที่พัฒนามาจากที่เราเจอในท้ายภาคแรก แต่ตอนนี้ลิลลีได้หายไปจากกลุ่มข้อมูล ทำให้โลกภายในสเต็มเกิดความไม่เสถียรหากปล่อยทิ้งไว้ทุกคนในสเต็มรวมถึง ลิลลี จะตายในไม่ช้า
เซบาสเตียนแม้ไม่ไว้ใจโมเบียสนักแต่เขาไม่มีทางเลือก เพราะต้องการช่วยลูกสาวอีกครั้ง หลังจากคราวก่อนเขาช่วยเธอช้าไป เขาจึงยินยอมเข้าสู่โลกของสเต็ม ซึ่งคราวนี้ถูกจำลองเป็นเมืองแสนสุขนามว่า ยูเนี่ยน เขาต้องตามหาสมาชิกทีมกู้สถานการณ์ทั้ง 5 คนของโมเบียสที่ถูกส่งเข้ามาก่อนแล้วและหายตัวไป รวมถึงต้องตามหาร่องรอยของลิลลี รวมถึงเขาจะค่อย ๆ รับรู้ความจริงของเรื่องราวทั้งหมดมากขึ้นว่า เขายังคงเป็นบ้าอยู่หรือทั้งหมดเกิดขึ้นจริง โมเบียสคืออะไร สเต็มมีไว้ทำไม ชายปริศนาที่อยู่เบื้องหลังนั้นคือใคร เป้าหมายของคิดแมนคืออะไรแน่ รวมถึงการพบเจอคนที่เขาไม่คิดว่าจะได้เจออีกครั้งด้วย
เรียกว่าเก็บรายละเอียดจากภาคหลักและเสริมใน The Evil Within มาสานต่อได้เข้มข้นมาก ๆ มีจุดหักมุมหลายครั้ง เมื่อความจริงค่อย ๆ เผยออกมาเรื่อย ๆ จนเห็นภาพรวมว่าไม่มีเรื่องบังเอิญและทุกอย่างถูกร้อยเรียงไว้แต่ต้นด้วยเจตนาของใครบางคนอยู่แล้ว รวมถึงดราม่าของตัวละครทั้งตัวหลักและตัวสมทบที่ทำเอาหดหู่หลายรอบเลย ตรงนี้ทำได้ดีครับไม่ค่อยงงมากเท่าภาคแรกที่ปริศนาเยอะเกินและกั๊กไว้ทำภาคต่อไม่ค่อยเฉลยเท่าไหร่ ส่วนภาคนี้ก็ยังมีกั๊กอีกนิดหน่อยแต่ส่วนหลักนั้นค่อนข้างเคลียร์หมดครับไม่คาใจ ข้อเสียก็คงเป็นควรเล่นภาคแรกมาก่อนนั่นล่ะ ไม่งั้นมีงงเวลามันอิงเรื่องบีคอนในภาคแรก รวมถึงพวกการทดลองเครื่องสเต็มนี่ด้วย ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจเนื้อเรื่องครับ มีความเป็นหนังไซไฟจิตวิทยาหลอน ๆ สนุก ๆ เรื่องหนึ่งเลย

“นอกจากลิลลี ยังมีบางคนรอคุณอยู่ในนั้นนะ” คำพูดปริศนาทิ้งท้ายของคิดแมนก่อนเข้าสู่สเต็ม

เกมเพลย์ของ The Evil Within 2

ด้วยการออกแบบให้ฉากมีขนาดใหญ่ขึ้นมากจนเรียกได้ว่าเป็นกึ่ง ๆ เกมโลกเปิดเลยทีเดียว ทำให้เรามีทางเลือกในการเล่นมากขึ้นว่าจะเน้นที่ภารกิจหลัก หรือทำภารกิจเสริม โดยใช้วิทยุสื่อสารแกะสัญญาณในฉากได้ รวมถึงการออกแบบการเล่นและสัตว์ประหลาดที่หลากหลายมาก จุดอ่อน จุดแข็งต่างกันไป ทำให้เราสามารถเลือกเล่นได้ทั้งแนวลอบเร้น ยิงปะฉะดะ วางกับดัก หรือใช้มีดเล่มเดียวลุยก็ทำได้ การควบคุมนั้นยังคงไม่ซับซ้อนทำให้เล่นได้ไหลลื่น มีปัญหาบ้างตรงจังหวะการใช้มีดสู้นั้นจะไม่ตอบสนองกับการกดของเราแบบต่อเนื่อง แต่จะเน้นจังหวะฟันแล้วหน่วงหยุดนิดหนึ่ง ทำให้อาจหงุดหงิดนิดเวลาหัวร้อนเพราะโดนรุม และต้องกะจังหวะฟันให้ดีครับ ไม่งั้นจะโดนพวกซอมบี้เคาท์เตอร์ได้

ยินดีต้อนรับสู่เมืองยูเนียน รูปต้นไม้สัญลักษณ์ประจำเมืองก็มีสัญญะถึงการรวมเซลล์สมองทุกคนเป็นหนึ่งเดียว

พื้นที่ค่อนข้างใหญ่พอประมาณ จึงต้องมีวิทยุคอยจับสัญญาณทิศของภารกิจ นอกจากนี้ในหน้าต่างแผนที่ยังกำหนดจุดหมาย
ด้านอาวุธมีการปรับจากภาคเดิมอยู่เหมือนกัน ที่สังเกตุชัดคือพวกอาวุธหนักอย่างอาร์พีจี หรือระเบิดนั้นไม่มีแล้ว ทำให้การเล่นนั้นผาดโผนน้อยลงและเน้นการเล่นแบบมีสติมากขึ้น กระสุนต่าง ๆ ที่เก็บในฉากนั้นเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2 – 10 นัดต่อครั้ง แต่มีให้เก็บตลอดทั้งฉากก็เยอะเหลือ ๆ ครับ แค่ต้องตระเวนหาหน่อย ก็ดูเหมือนยังคงเน้นให้เก็บพวกวัสดุเพื่อไปคราฟท์ของและกระสุนในเซฟเฮ้าส์ หรือคราฟท์ของภายนอกที่ต้องใช้วัสดุมากกว่าในเซฟเฮ้าส์นั่นเอง หรือจะเน้นการเล่นแบบลอบฆ่าไปเรื่อย ๆ ประหยัดกระสุนก็เป็นทางเลือกที่ดี นอกจากนั้นในบางช่วง หรือโดยเฉพาะฉากหลัง ๆ นั้นจะมีพวกกดปุ่มให้ทันเวลาอยู่บ้างแต่ไม่ได้มากจนทำลายจังหวะการเล่นครับ
การอัปเกรดมีสายอัพเกรดแบบเกม RPG มากขึ้น ทั้งความสามารถของตัวละคร และอาวุธ ที่ต้องปลดเป็นลำดับและเลือกสายการอัปเกรดไปด้วย นอกจากนี้ยังต้องเก็บไอเท็มพิเศษอย่าง เจลสีแดง และ ชิ้นส่วนอาวุธพิเศษ เพื่อปลดล็อกชั้นความสามารถและขั้นอาวุธด้วย ในการอัปเกรดความสามารถตัวละครสามารถเก็บจาก เจลสีเขียว ที่เก็บได้ในฉากและจากการฆ่าสัตว์ประหลาดต่าง ๆ ตรงนี้ต่างจากเกมโลกเปิดก็ตรงพวกสัตว์ประหลาดต่าง ๆ จะเกิดมาแบบแน่นอน ไม่มีเกิดเรื่อย ๆ ทำให้การฟาร์มและอัปเกรดนั้นจะเป็นไปตามลำดับเนื้อเรื่องพอสมควร ซึ่งเป็นจุดดีที่ไม่ทำให้เราเก่งจนกลายเป็นเกมเดินยิงเร็วเกินไป (แต่หลัง ๆ พอเทพมากพอก็เดินยิงแบบคำนวนกระสุนได้ล่ะ เพราะสัตว์ประหลาดเกิดขึ้นแบบจำนวนต่อฉากตายตัว) ส่วนพวกอาวุธนั้นอัปเกรดได้จากการเก็บ ชิ้นส่วนอาวุธ ซึ่งอยู่ทั่วไปในฉาก

เก็บเจลสีเขียวได้จากการฆ่าซอมบี้และสัตว์ประหลาด

เข้าสู่มิติในกระจก แล้วก็พบใบหน้าคุ้นเคยจากภาคก่อน คุณพยาบาลแว่นผู้จะช่วยเราอัปเกรดความสามารถ

สายการพัฒนาความสามารถมีหลากหลาย และต้องปลดล็อกเป็นขั้นๆไป
ส่วนตัวเน้นอัปเกรดสายลอบเร้นเพื่อประหยัดกระสุน และอัปเกรดปืนลูกซองกับปืนพกเพราะได้ใช้เยอะ ยิ่งหลัง ๆ จะเก็บปืนพกเก็บเสียงได้ช่วยได้มาก ส่วนปืนลูกซองมีประโยชน์มากเวลาเจอบอสต่าง ๆ ครับ ส่วนด่านหลัง ๆ ก็ควรอัปพวกปืนสไนเปอร์ไว้นิดหน่อยเพราะต้องใช้พอสมควร

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม